การวางแผนการเงินสำหรับเด็กจบใหม่

การวางแผนการเงิน
หากย้อนกลับไปช่วงประมาณ 15-30 ปีก่อน เป็นช่วงที่การวางแผนการเงินไม่ได้เป็นที่รู้จักมากนัก ทำให้มักจะได้ยินผู้ใหญ่สอนมาตั้งแต่เด็กๆ จนจบมหาวิทยาลัยว่าให้อดออม และประหยัดเงินไว้ใช้ในอนาคต แต่ในปัจจุบันที่การวางแผนการเงินเป็นที่รู้จักในมุมกว้างแล้ว เรายังควรอดออม และประหยัดเงินแบบเดิม หรือควรทำอย่างไรหลังเรียนจบ
การรู้จักอดออม และประหยัดเงินเป็นเรื่องที่ดี แต่จะดีกว่าถ้าเราได้รู้จักคุณค่าของเงิน และนำไปใช้จ่ายหรือต่อยอดการลงทุนอย่างเหมาะสม บทความนี้จะมาเล่าให้ฟังถึง 5 วิธีวางแผนการเงินสำหรับเด็กจบใหม่ จะมีอะไรบ้าง ไปติดตามพร้อมๆ กันเลย

5 วิธีการวางแผนการเงินสำหรับเด็กจบใหม่

วิธีที่ 1 แบ่งเงินเป็นสัดเป็นส่วน

วิธีนี้สามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ ด้วยการแบ่งเงินด้วย 6 Jars System หรือการแบ่งเงินออกเป็น 6 ส่วน ประกอบไปด้วย
  1. ใช้จ่ายตามจำเป็น : Necessity Account (NEC – 55%) คือ ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันต่างๆ เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าน้ำค่าไฟ ค่าของใช้ที่จำเป็น
  2. อิสรภาพทางการเงิน : Financial Freedom Account (FFA – 10%) คือ การนำเงินไปลงทุนต่อยอดให้งอกเงย ผ่านการลงทุนในสินทรัพย์การเงิน เช่น หุ้น กองทุนรวม เป็นต้น
  3. การศึกษาและการพัฒนาตัวเอง : Education Account (EDU – 10%) คือ การเพิ่มความรู้ให้ตัวเอง ผ่านหนังสือ หรือคอร์สเรียนต่างๆ
  4. ใช้จ่ายในระยะยาว : Long-term saving for spending Account (LTS – 10%) คือ การมองไปในอนาคตว่าจะมีค่าใช้จ่ายอะไรเกิดขึ้นได้บ้าง เช่น ค่าดาวน์บ้าน ดาวน์รถ เรียนต่อต่างประเทศ แต่งงาน
  5. ให้รางวัลตัวเอง : Play Account (PLY – 10%) เพื่อการพักผ่อนและผ่อนคลาย เช่น เล่นเกม ดูหนัง ช้อปปิ้ง ทานบุฟเฟต์
  6. มอบของขวัญให้คนรอบตัวหรือบริจาค : Give Account (GIV – 5%) เช่น การซื้อของขวัญให้ครอบครัว คนใกล้ชิด รวมถึงการบริจาค

วิธีที่ 2 ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย

บัญชีรายรับ-รายจ่ายเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการวางแผนและบริหารการเงินของเรา ด้วยการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายที่ถูกต้องและเป็นระเบียบ จะช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์และติดตามรายได้และรายจ่ายของเราได้อย่างชัดเจน ทำให้เราสามารถบริหารการเงินในแบบที่มีเป้าหมายและเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นได้

วิธีที่ 3 เริ่มเก็บจากเงินสำรองฉุกเฉิน

การเก็บเงินสำรองฉุกเฉินเป็นหนึ่งในวิธีการที่สำคัญในการบริหารการเงินของเรา ด้วยการเริ่มเก็บเงินสำรองฉุกเฉินที่เหมาะสมและตรงตามแผนการเงินที่เราได้วางไว้ จะช่วยให้เรามีความมั่นใจและเสถียรภาพทางการเงินในกรณีฉุกเฉิน เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินทางการเงิน เราจะมีทรัพย์สินสำรองที่เพียงพอที่จะช่วยเหลือเราในการเผชิญกับสถานการณ์ที่ฉุกเฉินได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย

วิธีที่ 4 หักห้ามใจในการเป็นหนี้ (ถ้าไม่จำเป็น)

การหลีกเลี่ยงการเป็นหนี้โดยไม่จำเป็นเป็นหนึ่งในวิธีการที่สำคัญในการบริหารการเงินของเรา โดยการปรับปรุงพฤติกรรมการเงินและการวางแผนใช้จ่ายให้เป็นระเบียบ เราสามารถลดการใช้เงินในเรื่องที่ไม่จำเป็นและควบคุมการใช้เงินอย่างมีสติประหยัด เช่น การตัดสินใจซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็นหรือเพิ่มรายจ่ายในเรื่องที่มีความสำคัญและคุ้มค่า เพื่อให้เราไม่ต้องพึ่งพาการกู้ยืมเงินและลดความเสียหายทางการเงินในระยะยาว

วิธีที่ 5 ศึกษาเรื่องการลงทุน

ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไม่เหมือนช่วง 30 ปีก่อนอีกแล้ว ที่เพียงฝากเงินในธนาคารก็ได้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า 10% ต่อปี แต่ในตอนนี้เหลือเพียง 0.25% ต่อปีเท่านั้น และกำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้ออีกด้วย การฝากเงินไว้ในธนาคารอย่างเดียว ไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว

สรุป

เมื่อเราได้แบ่งเงินเป็นสัดเป็นส่วน ได้เก็บเงินสำรองฉุกเฉินแล้ว ในอนาคตเราจะมีเงินออมมากขึ้นอย่างแน่นอน ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้เงินออมของเรางอกเงยขึ้นมาได้ก็คือการลงทุน ซึ่งสินทรัพย์การเงินที่เหมาะสมกับมือใหม่มากที่สุด คือ กองทุนรวม เนื่องจากมีสินทรัพย์หลายประเภทให้เลือกลงทุน ตั้งแต่เสี่ยงต่ำไปถึงเสี่ยงสูง ใช้เงินลงทุนน้อย มีเงิน 1 บาทก็ลงทุนได้ และเราไม่ต้องดูตลาดเองด้วย เพราะมีผู้จัดการกองทุน คอยนำเงินของเราไปลงทุนให้ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำและศึกษาให้ดี คือ การกำหนดเป้าหมายว่าเราอยากเก็บเงินไปเพื่ออะไร เพื่อที่จะเลือกนโยบายการลงทุนที่เหมาะสมนั่นเอง
และนี่ก็เป็น 5 วิธีวางแผนการเงินสำหรับเด็กจบใหม่ที่ทีมงานนำมาฝาก ซึ่งไม่จำเป็นต้องทำให้ครบทั้ง 5 วิธี สามารถเริ่มต้นอยากวิธีที่เหมาะสมกับเรา แล้วค่อยๆ ขยับไปลองวิธีอื่นๆ ได้ ทีมงานหวังว่าบทความนี้จะทำให้น้องๆ นิสิต นักศึกษาที่เพิ่งเรียนจบ สามารถวางแผนการเงินให้วัยเริ่มต้นทำงานได้อย่างมั่นคง และมีอิสรภาพการเงินในอนาคต
สนใจอ่านบทความหรือข่าวสารการเงินเพิ่มเติมได้ที่ cash7day.com
Scroll to Top