ชีวิตอาจมีความมั่งคงเมื่อวางแผนการเงินในปัจจุบัน หากคุณยังไม่มีความมั่งคงว่าจะเริ่มต้นยังไง วันนี้ขอแนะนำเกี่ยวกับ “วิธีวางแผนการเงิน” มาฝาก หากเกิดปัญหาหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น คุณจะมีเวลาเตรียมตัวและรับมือกับสถานการณ์นั้น พร้อมกันนั้นคุณยังสามารถก้าวสู่อิสรภาพทางการเงินที่ยั่งยืนตลอดชีวิตอีกด้วย
6 วิธีวางแผนการเงิน ก้าวสู่อิสรภาพทางการเงินที่ยั่งยืนตลอดชีวิต
1. รู้จักตัวเองด้วยการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย
การใช้ชีวิตอย่างมีอิสระและเสรีเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง ซึ่งเราสามารถกินข้าว ดูหนัง ท่องเที่ยว และช้อปปิ้งสิ่งที่ต้องการได้อย่างเต็มที่เรียกว่า “เปย์ตัวเองแบบจัดเต็ม” อย่างไรก็ตาม เมื่อเราใช้จ่ายเพลินเกินไปโดยที่ไม่คำนึงถึงความเหมาะสมและการวางแผนการเงิน สภาพคล่องทางการเงินของเราอาจตกอยู่ในระดับเดือนชนเดือน การไม่ใส่ใจในการเก็บออมเงินและการวางแผนทางการเงินอาจทำให้เราพบกับสถานการณ์ที่ลำบากในการจัดการเงินของเรา
การทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดในการวางแผนการเงิน การตรวจสอบรายรับที่มีมาจากกี่แห่ง และรายจ่ายที่ต้องใช้จ่ายกันไปกับสิ่งต่างๆ ทำให้เราเห็นภาพที่ชัดเจนของสถานะการเงินของเรา โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เช่น ค่าใช้จ่ายสำหรับครอบครัว ค่าผ่อนบ้าน รถยนต์ หนี้บัตรเครดิต และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าอาหาร เดินทาง ค่าข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน ค่าสังสรรค์ ฯลฯ
การวางแผนทางการเงินนี้ช่วยให้เราสามารถรู้ว่าเงินของเราใช้อยู่ที่ไหนและเหลือเท่าไหร่ นอกจากนี้ยังช่วยให้เรามีมุมมองในการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและให้ความสำคัญในเรื่องของรายรับที่ต้องมากกว่ารายจ่าย เพื่อให้สามารถแบ่งเงินจากรายรับมาเก็บออมตามแผนการเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ในอนาคต การวางแผนการเงินเหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญในการให้เรามีความพร้อมในการเผชิญกับความไม่แน่นอนในชีวิตอย่างมั่นคง
2. วางแผนการออมเงินตามเป้าหมายชีวิต
การตั้งเป้าหมายชีวิตเป็นสิ่งที่สำคัญในการวางแผนการใช้เงินและออมเงินให้สำเร็จตามที่เราตั้งใจไว้ การมีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจนจะช่วยให้เรามีแรงผลักดันและความกระตือรือร้นในการออมเงินและการเก็บเงินเพื่อให้เป้าหมายนั้นเป็นจริง เมื่อเราตั้งเป้าหมายชีวิตแล้ว เช่น ต้องการเก็บเงินซื้อบ้าน รถยนต์ ท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่งงาน เรียนต่อ หรือค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของบุตรหลาน เราก็จะมีทิศทางและแผนการในการเก็บเงินเพื่อให้เป้าหมายนั้นเป็นจริง
หากยังไม่แน่ใจหรือไม่มีเทคนิคในการเก็บออมเงิน เราสามารถเริ่มต้นด้วยการแบ่งเงินจากรายได้ของเรา ประมาณ 10-20% มาเก็บออมไว้ทันที หากกลัวว่าจะเก็บเงินไม่อยู่ เราสามารถใช้การตัดผ่านบัญชีอัตโนมัติเพื่อให้การออมเงินเป็นเรื่องสะดวกและง่ายขึ้น
นอกจากนี้เรายังสามารถศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการวางแผนทางการเงินและการเก็บออมเพิ่มเติม แล้วนำมาประยุกต์ให้เหมาะกับตนเอง เพื่อให้สามารถประสบความสำเร็จในการเก็บเงินและการวางแผนในชีวิต เป้าหมายที่เราตั้งให้เล็กหรือใหญ่แค่ไหนก็เป็นไปได้แน่นอน และการวางแผนที่ดีจะช่วยให้เรามีสภาพคล่องในการจัดการเงินและมีความพร้อมในการเผชิญกับความไม่แน่นอนในชีวิตอย่างมั่นคง
3. เก็บเงินสำรองฉุกเฉินเมื่อเกิดเรื่องไม่คาดฝัน
การวางแผนการเงินเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากชีวิตของเรามักไม่แน่นอน สถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงอย่างไม่คาดคิดเมื่อใดก็ตาม อาจมีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดภัยความเสี่ยงในอนาคต เช่น การตกงาน กิจการขาดทุนหนัก หรือต้องใช้เงินสำรองอย่างเร่งด่วน การเตรียมเงินสำรองฉุกเฉินเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง เพื่อให้มีความพร้อมในกรณีฉุกเฉินที่เกิดขึ้น เงินสำรองฉุกเฉินเป็นเงินที่ควรมีให้พร้อมเพื่อจ่ายใช้ในกรณีฉุกเฉินต่างๆ
โดยที่ควรมีกระแสเงินสดอย่างน้อย 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายทั้งหมดในชีวิตประจำวัน เช่น หากค่าใช้จ่ายต่อเดือนทั้งหมดของคุณเป็น 10,000 บาท คุณควรมีเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 30,000-60,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ใช้งานในกรณีฉุกเฉินที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด การมีเงินสำรองฉุกเฉินนี้จะช่วยให้คุณมีสภาพคล่องในการจัดการภัยความเสี่ยงในชีวิตอย่างมั่นคง แม้ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไป แต่คุณก็ยังคงสามารถดำเนินชีวิตไปอย่างมั่นใจและมีความพร้อมในการเผชิญกับความไม่แน่นอนในชีวิตได้
4. วางแผนค่าใช้จ่ายเพื่อสุขภาพ
ในชีวิตเรามีหลายครั้งที่อาจคิดว่าเราได้ดูแลชีวิตเราอย่างดีเสมอ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม โรคภัยและความไม่สบายอาจเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด ซึ่งอาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่สูงเกี่ยวกับสุขภาพ การวางแผนเพื่อค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมความพร้อมในกรณีเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น ค่ารักษาพยาบาล ค่าจ้างพยาบาลพิเศษหากต้องการการดูแลเพิ่มเติม หรือค่าใช้จ่ายสำหรับบ้านพักคนชรา
การวางแผนการเงินเพื่อค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการออมเงินเป็นประจำทุกเดือนด้วยตนเอง หรือการซื้อประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ หรือประกันโรคร้ายแรงเพื่อให้เป็นการเตรียมความพร้อมในกรณีฉุกเฉิน การสร้างเงินสำหรับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตสามารถทำได้โดยการสะสมเงินให้มีความเสถียรและนำไปลงทุนในช่องทางที่เหมาะสม เช่น การลงทุนในกองทุนรวมที่เน้นเกี่ยวกับสุขภาพ หรือการลงทุนในพันธบัตรที่เกี่ยวข้องกับด้านสุขภาพ
นอกจากนี้ การซื้อประกันสุขภาพหรือประกันอุบัติเหตุก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยในการปกป้องเรื่องราวที่ไม่คาดคิดในชีวิต การวางแผนการเงินให้เพื่อค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพนี้เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้คุณสามารถใช้ชีวิตได้สบายและมั่นใจในเวลาที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดในอนาคต
5. วางแผนการเงินเพื่อชีวิตเกษียณที่มั่งคั่งและมีความสุข
ขั้นตอนแรกในการวางแผนทางการเงินเพื่อชีวิตเกษียณคือการคำนวณและกำหนดเป้าหมายให้เหมาะสม คุณสามารถเริ่มต้นด้วยการคำนวณอายุของคุณในปัจจุบันและกำหนดว่าคุณต้องการเกษียณที่อายุเท่าไหร่ รวมถึงกำหนดจำนวนเงินที่คุณต้องการใช้ในชีวิตเกษียณเดือนละเท่าไร เช่น คุณอายุ 30 ปี ต้องการเกษียณที่อายุ 55 ปี และความต้องการใช้เงินหลังเกษียณเดือนละ 20,000 บาท (หลังเกษียณถึงอายุ 80 ปี) ก็คือคุณต้องการเวลา 25 ปีในการเก็บเงินและใช้เงินหลังเกษียณเป็นเวลา 25 ปีด้วยกัน ดังนั้นคุณจำเป็นต้องมีเงินสะสมประมาณ 6,000,000 บาทเพื่อใช้ในชีวิตหลังเกษียณ
หลังจากกำหนดเป้าหมายการเงินเพื่อชีวิตเกษียณแล้ว คุณต้องกำหนดแผนการเงินที่เหมาะสมและเริ่มดำเนินการเก็บเงินให้เร็วที่สุด การลงทุนในช่วงเวลายากๆ เช่น ช่วงเริ่มต้นหรือช่วงที่มีความเสี่ยงในตลาด อาจจะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรให้กับการลงทุนของคุณในระยะยาว การวางแผนการเงินสำหรับชีวิตเกษียณควรเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง คุณควรปรับแก้แผนหากมีเหตุการณ์ใดๆ ที่เกิดขึ้น เช่น การเปลี่ยนงาน การเพิ่มรายได้ หรือการเปลี่ยนแปลงในสถานะทางครอบครัว
นอกจากนี้คุณควรตรวจสอบและปรับปรุงแผนการเงินอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้คงความเป็นไปได้ในการปฏิบัติตามและเข้าใจถึงเป้าหมายของคุณในการลงทุนในชีวิตเกษียณอย่างมั่นคง ในที่สุดความมั่งคั่งและความสำเร็จในชีวิตเกษียณจะอยู่ในมือคุณเอง และความรู้และการวางแผนที่ดีจะเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างสัมฤทธิ์ให้กับเงินของคุณ ในที่สุดคุณจะสามารถมีชีวิตที่มั่งคั่งและสุขใจในชีวิตเกษียณตามที่คุณปรารถนาไว้
6. ลงทุนให้เงินทำงานแทนเรา
การวางแผนทางการเงินด้วยการลงทุนนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมันไม่เพียงแค่ทำให้เงินที่เราหามามีโอกาสงอกเงยขึ้นเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างกำไรและผลตอบแทนที่ดีกว่าการเก็บเงินไว้เฉย ๆ อีกทั้งยังมีประโยชน์ทางภาษีอีกด้วย การลงทุนจะขึ้นอยู่กับประเภทของสินทรัพย์ที่เราลงทุนและระดับความเสี่ยงที่เราพร้อมรับได้ ปัจจุบันมีเทคนิคการลงทุนให้เลือกมากมาย เช่น ลงทุนให้หุ้น กองทุนรวม ตราสารหนี้ หรือสินทรัพย์ทางเลือกอย่างทองคำ น้ำมัน อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ทำให้เราสามารถเลือกลงทุนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวได้ตามความต้องการและแผนการเงินของเราเอง
สำหรับคนที่เริ่มต้นลงทุนเงินก้อนใหญ่ หรือต้องการลงทุนเป็นระยะเวลานาน สามารถใช้วิธีการถัวเฉลี่ยเท่ากันทุกเดือน (Dollar-Cost Averaging) ได้ตามความสะดวกความสามารถของแต่ละบุคคลเส้นทางนี้เหมาะกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนหัดหรือนักลงทุนมืออาชีพ ด้วยเหตุนี้ ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนเป็นสิ่งที่ควรมีในการวางแผนการเงินอย่างมีเสถียรภาพและหากเราให้ความสำคัญในการเรียนรู้เกี่ยวกับตลาดและทำความเข้าใจในแนวโน้มตลาดนั้นจะช่วยให้เราตัดสินใจเพื่อลงทุนที่มีความรับรู้และการพิจารณาที่สมเหตุสมผลยิ่งขึ้น
ด้วยการวางแผนการลงทุนอย่างชาญฉลาด การคำนึงถึงความเสี่ยงและต้นทุน การเลือกทางที่เหมาะสมในการลงทุน และความตั้งใจที่จะลงทุนในระยะยาว คุณจะมีโอกาสสร้างความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรืองในอนาคตอย่างยั่งยืน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนใหม่หรือผู้เชี่ยวชาญคนฉบับสมบูรณ์ การลงทุนเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างสัมฤทธิ์ให้กับเงินของคุณและเสริมสร้างสิ่งที่คุณใส่ใจในชีวิตความเป็นอิสระและความเป็นเจริญรุ่งเรืองของครอบครัวที่รักของคุณ ทำให้คุณสามารถเติบโตทางด้านการเงินและเตรียมพร้อมในชีวิตอนาคตได้อย่างมั่นคง
หากคุณเป็นอีกคนที่อยากวางแผนการเงินอย่างจริงจัง เราเชื่อว่าวิธีเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยที่ดีให้คุณได้ และขอย้ำอีกครั้งว่า ยิ่งเริ่มต้นวางแผนการเงินเร็วเท่าไร ความมั่นคงและมั่งคั่งทางการเงินย่อมเกิดขึ้นเร็วเท่านั้น
สนใจอ่านบทความหรือข่าวสารการเงินเพิ่มเติมได้ที่ cash7day.com